Saturday, December 10, 2005

ทำฟันแถมธาตุเหล็กและวิตามิน

เช้านี้ตื่นมา9โมง ทั้งๆที่เมื่อคืนนอนดึกมาก มันเหมือนมีอะไรต้องทำค้างๆอยู่แฮะ อ้อ ความทรงจำเริ่มไหลกลับเข้ามาในหัว เมื่อคืนไปดูพารากอนมา(แอบภูมิใจลึกๆ) พอกลับมาก็มาดูเทปที่ITVเอามาฉายอีก จนเกือบตี2ถึงขึ้นมานอนข้างบน เจ็บเหงือกอ่ะ เป็นมาอาทิตย์นึงน่าจะหายได้แล้วน๊า แต่ก็ไม่หาย ถ้าไปเจ็บตอนอยู่นู่นนี่ต้องตายแน่ ได้ยินว่าค่าทำฟันเมืองนอกแพงโหดมาก ตายๆ อีก2อาทิตย์ก็ต้องไปแล้ว ทำไงดี ถ้าไม่ผ่าวันนี้ก็ต้องอาทิตย์หน้า ไม่ได้ๆ อาทิตย์ต้องไปงานปีใหม่ งั้นก็ต้องวันนี้แล้วล่ะเพราะคุณหมอฟันคุดจะเข้ามาเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์

ตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วที่รู้สึกเจ็บๆเหงือกด้านซ้ายล่าง เพราะฟันกรามในด้านบนมันยาวลงมากด แต่คิดว่าเดี๋ยวคงหายเหมือนทุกทีที่ผ่านมา ฟันซี่นี้มันงอกมาตั้งแต่บุนเรียนอยู่ปี3(ตอนนั้นเวลากินข้าวจะทำหน้าบูดๆเพราะมันเจ็บ จนเมิ๊บถามว่าเป็นอะไร) ตอนนั้นก็ไม่อยากถอน กลัวจะตายถอนฟัน ตอนไปทำฟันคุณหมอก็ถามตลอดว่าจะถอนเมื่อไหร่ หรือถ้าจะเอาไว้ หมอก็จะอุดให้ มันเริ่มๆจะผุแล้วนะเพราะอยู่ลึกทำความสะอาดยาก บุนก็บอกเค้าตลอดว่า ถอนค่ะ ถอนแน่นอน แต่ขอหนูทำใจก่อนนะคะ ตอนนี้ผ่านมา4-5ปีแล้วมั๊ง ยังทำใจไม่ได้อยู่เลย

ก็เห็นคนผ่าฟันคุดแต่ละคน โห บางคน2วันผ่านไปแล้วแก้มยังบวมเป็นมะนาวอยู่เลย ส่วนเพื่อนของเพื่อนก็เศษอาหารเข้าไปติด เป็นหนองอีก อีกคนรากฟันงอเป็นตะขอต้องผ่าออกมาแต่หมอตัดฟันแล้วคีบออกมาไม่หมด ก็อักเสบ ไหนจะเย็บแผล ตัดไหม โอย...

เอางี้โทรไปร้านหมอก่อน

ด้วยเสียงหวานๆของพนักงานรับสาย ทำให้เราได้นัดหมอไปซะแร๊วตอนเที่ยง กรี๊ด...ทำอารายลงป๊ายยย ผ่าฟันนะเฟ้ย เป็นการตัดสินใจปุปปับไม่แคร์เวลา4ปีที่ขอไว้ทำใจเลย เอาๆๆๆ ตายเป็นตาย อย่างมากก็แบกหน้าปูดๆ กะโผลกกะเผลกไปรับวีซ่าวันจันทร์(อาจต้องมีสัมภาษณ์ด้วยเพราะครั้งที่แล้วขอไว้แต่ไม่ได้ไป) หมดสวยแน่ชั้น...

ไปถึงคลินิคตอนเที่ยงพอดี คุณหมอสาวหน้ากลมนั่งอยู่ตรงโซฟาข้างนอก (แปลกจังที่เรานึกภาพคุณหมอฟันคุดเป็นภาพหมอผู้ชายตลอด) ไม่เคยเจอคนนี้มาก่อน คุณหมอคนนี้อายุเท่าๆกะบุนเลย นั่งอ่านแพรวอยู่ อ่านข่าวดาราด้วย ดูไม่น่าเชื่อถือเลย หน้าเด๊กเด็ก เป็นหมอต้องอ่านพวก Encyclopedia สิ หนังสือตำราอะไรพวกนั้น (คิดไปเองทั้งน๊าน) หลังจากที่เล่าอาการให้ฟัง หมอก็เอากระจกมาส่องๆ ดูอาการซักพัก คุณหมอก็บอกว่ามันไม่ได้คุดค่ะ ถอนธรรมดา ไม่ต้องผ่า...มันไม่ได้คุด…ไม่ได้คุด...ไม่ได้คุด...ไม่ได้คุด...ไม่ได้คุด...คุดๆๆๆๆๆ

ตั้งแต่เกิดมา25ปี ไม่มีครั้งไหนเลยที่คำว่า “ถอนฟัน” ฟังดูดีเท่าครั้งนี้

ถอนฟันคุด 800-2,500บาท แล้วแต่อาการความยากง่าย ส่วนของบุน 300บาทจ๊ะ ถอนฟันธรรมดา

เอ่อ...คนเรานี่มันเป็นประเภทคิดไปเองจริงๆนะ ฟันในสุดงอกออกมาก็ดันไปเรียกมันว่าคุด(ฟันคุดน่าจะหมายถึงมันล้ม หรือรากมันงอหงิกไปเกี่ยวกะส่วนอื่น) แล้วก็ดันคิดไปว่าคุณหมอไม่ควรอ่านนิตยสารดารา...ซะงั้น

ขั้นแรกตามธรรมเนียม ฉีดยาชาก่อน คุณหมอมือเบามาก ขอโบก แทบไม่รู้สึกว่ามียาวิ่งๆๆอยู่ในเหงือกเลยนะ ฉีดด้านนอกก่อน แล้วค่อยย้ายมาฉีดด้านใน หมอบอกว่า เจ็บกว่าตะกี๊นะคะ แต่ก็ไม่เจ็บนะ ถ้าบุนบอกว่าไม่เจ็บนี่สำหรับคนอื่นจะเป็นไม่รู้สึกอะไรเลยนะ เพราะบุนขี้ปอดอ่ะ เอะอะนิดนึงก็เจ็บแล้ว

คุณหมอยังบอกอีกว่า”อีก2ซี่ที่เหลือ(ขวาบน-ล่าง)ไม่ต้องถอนก็ได้นะคะ เพราะฟันสบกันปกติ แต่ต้องแปรงฟันดีๆหน่อยนะคะ เพราะอยู่ลึก แต่ตรงเหงือก(ซ้ายล่าง) ที่เจ็บอยู่นี่ต้องดูว่ามีฟันซ่อนอยู่ไม๊ ถ้ามีก็อาจต้องมาผ่าออกทีหลัง แต่ถ้าไม่มีก็จบแค่นี้ด้วยการถอนแค่ซี่เดียว(ซ้ายบน)ได้เลย” ระหว่างรอให้ยาชาออกฤทธิ์ คุณหมอก็พาไป x-ray ผลก็ออกมาว่าด้านล่างซ้ายไม่มีฟันใดๆซ่อนอยู่จ๊ะ ดีจังๆๆๆๆ

ระหว่างนี้ก็ตรวจฟันไปเรื่อย ดูว่ามีที่ต้องทำอีกไม๊ เลยตัดสินใจอุดฟันไป1ซี่ ข้างบนด้านซ้าย เพราะไหนๆมันก็ชาแล้ว เอาซะหน่อย ชอบมากเลยกรอฟันแบบไม่เสียวเนี่ย เย็นสบาย ชื่นใจๆ

มาถึงขั้นตอนถอนเนี่ย พยายามหลับตาแล้วนะ แต่ดันไปเห็นอุปกรณ์เข้าจนได้ แอบเสียว เข้าใจว่ามี2ขั้นตอน

1.แท่งเหล็กดันฟันให้เอียงหลุดจากฐาน ต้องใช้แรงดันอย่างมาก ไม่รู้ว่ามีแรงส่งจากอุปกรณ์ด้วยรึเปล่า ก็แหม ฟันคนนะ แน่นจะตาย เราก็เสียวว่าฟันจะหักเปาะไง เลยส่งเสียงอู้อี้ๆออกไป ตอนดันน่ะ หมอต้องนึกว่าเราเจ็บแน่เลย แต่มันไม่เจ็บหรอก (แต่เจ็บมุมปากนะ หมอเค้าฉีกปากลงมาอ่ะ นี่ขนาดเราปากกว้างนะ) แล้วก็รู้สึกว่ามีอะไรอุ่นๆไหลลงที่เหงือก กึ๋ยๆ “ไม่เจ็บใช่ไม๊คะ” คุณหมอถามย้ำบ่อยมากจากที่เห็นท่าเราเอามือจิกพนักเก้าอี้ “ไม่เจ็บเลย แต่ใจเสาะอ่ะค่ะ” ทั้งหมอทั้งผู้ช่วยขำกันใหญ่ แต่มันกลัวจังหวะหักเป๊าะอ่ะค่ะ อันนี้ไม่กล้าบอกแกอ่ะ แกเลยเรียกผู้ช่วยมาจับหัวไว้ไม่ให้หนี แล้วก็เอายาชามาฉีดเพิ่ม สงสัยไม่เชื่อว่าไม่เจ็บ

2.คีม กึ๋ยๆ…"หลุดแล้วนะคะ เดี๋ยวหมอเอาคีมดึงออก" โอว ดั่งเสียงสวรรค์ หลุดแล้ว ไม่มีจังหวะการหักเป๊าะด้วย(อันนี่ก็คิดเอาเองอีกละว่ามันต้องหักเป๊าะ) ไม่เจ็บเลยด้วย แอ๊กท่าซะเวอร์ไปแล้วเขินจัง พอมาคิดๆดู การที่กระดูกจะหลุดจากเหงือกมันก็ไม่น่าจะหักเป๊าะได้หรอก โง่จริง

ทั้ง2ขั้นตอนกินเวลาประมาณ2นาที นี่ถ้าไม่รวมเวลาคุยกัน หรือเอายามาฉีดเพิ่มนะ คงใช่เวลาไม่ถึงนาทีแหงๆ เร็วมากกว่าที่คิดไว้จมเลย เฮ้อ ดีเหมือนกัน จากนั้นคุณหมอก็เอาผ้าก๊อซมาให้กัดไว้ “ออกยากนิดนึงนะคะ เพราะฟันมี3ราก...อย่าเพิ่งพูดมากๆนะคะ กัดเอาไว้ เดี๋ยวหมอให้ไว้เปลี่ยนด้วย จะเอาฟันกลับไปด้วยไม๊คะ” หันไปมองที่ถาดเครื่องมือ คุณหมอพูดพลางเอาคีมพลิกฟันไปมาให้ดู ฟันกรามชั้น มีรากยาว3ราก ซุกตัวในผ้าก๊อซชุ่มเลือดที่กระเพื่อมไปมาตามจังหวะการหนีบของคุณหมอ ไม่เอาล่ะค่ะหมอ ขอดูอย่างเดียวก็พอค่ะ

แค่นั้นแหละ ลุกออกมาได้ละ มาที่ห้องจ่ายยา จ่ายตั้งที่อยู่ข้างๆ ยืนจ่ายตังค์ โอย..หน้ามืดอ่ะ จะเป็นลม ต้องรอใบประกันสังคมอีกแป๊บนึง โอ๊ย...ขอนั่งดีกว่า ต้องเป็นเพราะดูฟันแช่เลือดแน่เลย ไม่น่าเลย จะเป็นลม ไม่น่าหันไปดูเลย ยิ่งแพ้เลือดอยู่ นี่แค่รู้สึกว่ามีแผลรูเบ่อเริ่มในปากแถมมีเลือดไหลโจ๊กๆอยู่ก็จะแย่อยู่แล้ว ครั้งหน้านั่งตุ๊กๆออกมาดีกว่า จะได้ไม่ต้องขับรถ หน้ามืดอ่ะ จะเป็นลม...

อันนี้จะบอกไว้นะคะ หม่าม๊าของเพื่อนไปผ่าฟันคุดที่เดียว2ซี่ ออกมาหน้ามืดเลยล่ะ ต้องให้คนไปรับ เพราะเสียเลือดมากไง ผ่าฟันนี่มันก็ผ่าตัดขนาดเล็กเลยนะ ถ้าไม่ค่อยแข็งแรงก็หาเพื่อนไปด้วยนะคะ(บุนแข็งแรงแต่ขี้ปอด แฮะๆ) ตอนออกจากบ้านก็คิดว่าไม่เป็นไรมากมั๊ง ผ่าซี่เดียว แล้วก็จะแวะไปเอารูปที่บ้านเพื่อนด้วย ก็เลยบอกแม่ว่าไม่ต้องไปเป็นเพื่อนหรอก แล้วนี่ขนาดว่าไม่ได้ผ่านะ แค่ถอนเฉยๆ...

แต่จะแอบบอกนะว่า กรณีของบุนน่ะ จริงๆมันไม่น่าจะวืดเลยนะ แค่ถอนฟันไม่ถึง2นาทีเอง ไม่ได้ผ่าซะหน่อย คนทั่วไปคงไม่เป็นกันหรอก บุนเลยคิดว่า ไอ้ที่วืดๆน่ะ น่าจะเป็นอาการใจเสาะแพ้เลือด แพ้แผลมากกว่า แล้วก็นอนอยู่นานด้วย ลุกขึ้นมาปุปปับ ก็น่าจะหน้ามืดเป็นธรรมดา คิดๆดูก็น่าจะเอาฟันกลับมาด้วยนะ พอตั้งสติได้ก็เริ่มหายกลัว ดูๆไปมันก็เป็นฟันกรามที่น่ารักนะ มีราก3อันสวยเชียว คล้ายๆที่เห็นในโฆษณายาสีฟันน่ะ แต่อันนี้มี3รากสีครีมอ่อนๆ ผิวเรียบเนีน เป็นรากฟันที่สวยที่สุดที่เคยเห็นมา (แน่ละสิเกิดมาก็เห็นอันนี้แหละอันแรก) แต่ส่วนบนที่โผล่พ้นเหงือกด้านในแอบมีเส้นสีดำเล็กน้อยแสดงถึงส่วนที่ทำความสะอาดยาก

กลับมาบ้านแม่ก็ทักว่าเร็วจัง เราก็อื้อโชคดีอ่ะแม่ ไม่ต้องผ่าถอนเฉยๆ หมอไม่ให้พูดมากล่ะแม่ ไปล่ะ ขึ้นมาเล่นเน็ต แช็ตไปเรื่อง ดีจัง ไม่ต้องพูดมาก แช็ตนี่มันดีอย่างนี้นี่เอง เอาไว้คุยหลังถอนฟัน แต่ทำไมเลือดไม่หยุดล่ะ หลายชั่วโมงแล้วนะ กัดผ้าไว้ แล้วก็เปลี่ยนไปเรื่อย เลือดเต็มผ้าก๊อซ หนืดๆ แหวะๆๆๆ เลือดอ่ะ หมดห้ามบ้วนเค้าว่าเดี๋ยวมันไหลไม่หยุด ต้องกลืนลงไป ไม่อร่อยด้วย อี๊ นอนตื่นมาก็ยังไม่หยุดไหล ช่วงนี้เป็นช่วงที่แย่สุดๆ ไปเอาผ้าออก แล้วบ้วนปาก เพราะหิวแล้ว จะกินข้าว แม่ทำข้าวต้มไว้ให้ กลิ่นเลือดเต็มปาก เริ่มทรงตัวไม่อยู่ เกลียดกลิ่นเลือด เวียนหัวอยากจะอ๊วก แต่ไม่กล้าบ่นอะ เดี๋ยวแม่เป็นห่วง

ไปตักข้าวต้ม พร้อมกับนึกถึงคำพูดเพื่อนว่าเคยไปผ่าฟันแล้วทำเมล็ดข้าวตกไปในรูจนแผลอักเสบ โอย...หิวอ่ะ ไม่สนแล้ว...ข้าวต้มร้อนๆ กินไป1คำ โห...ไม่น่าเชื่อเลยออเดรย์ นี่เป็นข้าวต้มที่อร่อยสุดในชีวิต คือมันล้างกลิ่นคาวเลือดในคอได้ดีมาก อาการเวียนหัวจะอ๊วกก็หายไปด้วย กินไป2ชามข้าวต้มมหัศจรรย์ โห อาการดีขึ้นสุดๆ แต่ก็พยายามกินทางขวานะ ไม่อยากให้ไปโดนแผลอ่ะ ไม่รู้แปรงฟันได้เปล่า แต่ก็แปรงไปแล้วล่ะ สดชื่นดี อ๊าห์

ขณะนี้4ทุ่มแล้ว ผ่านมาเกือบ10ชั่วโมงแล้ว เลือดยังไหลอยู่เลย เหม็นๆๆๆเริ่มแหวะอีกแล้วค่ะ ลงไปทานข้าวต้มดีก่า ล้างคอซะหน่อย

วันนี้เขียนยาวมาก...
คือแค่อยากจะเอาไว้บอก เอาไว้เตือนกับตัวเองว่า
ไม่ต้องกลัวหมอฟันนะ
ครั้งต่อไปถ้ามีปัญหาอะไรก็ไปเหอะ ไม่เจ็บเลยจริงๆ
คนที่เข้ามาอ่านคงรู้สึกเหมือนกัน(รึเปล่า ^__^)
หวังว่าบุนคงไม่ทำให้มันดูน่ากลัวขึ้นไปอีก

แต่มันไม่เจ็บจริงๆนะจ๊ะ รับรอง อิ อิ




No comments:

Post a Comment