Saturday, September 10, 2005

You should proud of me

วันนี้จะไปงานแต่งของลูกสาวของเพื่อนบ้านแถวๆบ้านเก่า รู้จักกันมาแต่เด็กแล้ว

ช่วงนี้มีงานแต่งงานเยอะจริงๆเดือนที่แล้วเพิ่งไปงานแต่งป๊อป แต่งานนี้คงต้องนั่งแท๊กซี่ไปกับแม่เพราะรถเสียตั้งแต่วันพฤหัส

โห...นี่ไม่อยากจะอวด ถ้าบอกได้ว่าอะไรเกิดขึ้นกับบุนบ้างในวันนั้น และบุนได้แก้ไขปัญหาให้ลุล่วงไปได้ด้วยตัวคนเดียวได้อย่างไร บอกได้คำเดียวว่า คุณจะต้องภูมิใจในตัวบุนมากแน่ๆ

แต่ไหนๆบุนก็ผ่านมันมาแล้ว ได้ประสบการณ์ที่ดีกับรถลาก(ที่ในชีวิตไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องโทรไปขอใช้บริการ) และด้วยความคิดนั้น บุนก็พยายามทำทุกอย่างแล้วเพื่อที่จะกระดึ๊บรถที่เริ่มรู้ว่าน่าจะมีปัญหาแต่เช้าแล้วไปให้ถึงอู่ หรือถึงบ้าน แต่ไม่สำเร็จ หลังจากที่ใจหายใจคว่ำมาตลอดบนทางด่วน จนถึงหน้าปากซอย เครื่องดับครั้งที่1 จากนั้นก้อมาดับที่หน้าหมู่บ้านที่ห่างจากปากซอยประมาณ900เมตร


(จริงๆมันเริ่มเพี๊ยนๆแต่เช้าแล้วล่ะ ไปดับที่ข้างเซนทรัลตั้ง2ครั้ง แล้วพอข้ามแยก มันก็ดับเอากลางแยกซะงั้น ดีที่ไหลๆต่อไปได้จนพ้นแยก ตื่นเต้นชะมัด พยายามอีกพักใหญ่กว่าจะไปถึงออฟฟิสได้ แต่ก็ดับต่ออีก2ครั้ง)

นึกว่าจะยอมไปให้ถึงบ้านก่อน แล้วพรุ่งนี้ก็จะเอาเข้าอู่ แต่ก็ไม่ไหวแฮะ


อะฮ่า แต่ก็ยังดีว่ะ อย่างน้อยก็ไม่ดับที่ถนนใหญ่ พยายามอยู่เป็นนานกว่ารถจะสตาร์ทติด แต่สุดท้ายก็กระดึ๊บไปได้แค่มหาสิน เดี๊ยงอยู่ตรงนั้น โทรหาอู่ที่เคยไปซ่อม เค้าก็ดี๊ดี ช่วยให้ลูกน้องมาดูให้ แต่สุดท้ายก็ไม่รู้ว่าเป็นที่อะไร คงต้องเอาไปเช็คให้ละเอียดอีกที ช่างเลยช่วยตั้งเครื่องให้รอบสูงขึ้นเพื่อให้รถวิ่งออกมาได้ แต่ก็ได้แค่ท้ายๆซอยแหละ เครื่องก็ดับไปอีก และด้วยการดับกระทันหันนั้น มอไซค์ที่ตามมาข้างหลังเลยชบป๊าปเข้าให้ หง่ะ กันชนเป็นรอยเลย กันชนท้ายสุดรักของบุน ส่วนของรถคันนี้ที่บุนรักสุดๆก็บั้นท้ายเธอนี่แหละ

เอาวะ ยังไงก็ดีที่เป็นแค่มอไซค์ แล้วก้อแค่กันชน ไม่โดนตัวถัง น้องคนที่ขัยเค้าก็เจ็บเหมือนกันเพราะหน้าอกเค้าก็ไปกระแทกกะแฮนด์มอไซค์ นี่ถ้าเป็นสองแถวตามหลังมาคงแย่แน่ เซ็งสุดขีดกว่านี้แล้วแหละ

คิดว่าคงดื้อดึงต่อไปไม่ไหวแล้ว เลยต้องตัดสินใจเรียกรถยกตอนนั้นแหละ ...

"เรียกรถยกไม่ยากอย่างที่คิดนะเคอะ หากทั่นมีปัญหา โทรมาปรึกษาดิฉันได้ตลอด24ชั่วโมง"

ขอเตือนว่า อย่าลังเลที่จะเรียก ไม่งั้นก็อาจซวย2ชั้นแบบบุน คือถ้าตัดสินใจเรียกแต่แรก คงไม่เจอมอไซค์ชนตูด แต่อย่าไปใช้บริการพวกCar World Clubล่ะ คิดแพงมักๆ 1,800บาท/15กิโลเมตรแรก แนะนำให้โทรไปที่โรงพัก เค้ามักจะมีเบอร์โทรติดต่อให้

อย่างของบุน พี่ช่างแนะนำให้โทรไปที่สน.พระโขนง เค้าก็จะโอนให้บริษัทรถยก ซึ่งเจ้าของก็เป็นตำรวจที่คนนึงซึ่งเปิดบริษัทรถยกควบคู่ไปกับการเป็นตำรวจ บุนรู้สึกเหมือนเป็นการผูกขาดยังไงก็ไม่รู้ ไม่เชิงว่าผูกขาด แต่เหมือนเข้าทางยังไงก็ไมรู้มากกว่า แต่อย่างน้อยบุนก็มีทางเลือกที่ถูกลงเย๊อะ 700บาท/15กิโลเมตรแรก แม๊...น่าให้ลากมาจากที่ออฟฟิสจริงจรี๊งงงงง จะได้ไม่ต้องไปใจหายใจคว่ำบนทางด่วนอยู่ซะงั้น

เอาเถอะ ตอนนี้รถลากก็มาถึงแล้ว หวังว่าทุกอย่างคงโอเชแล้วนะ


เอ๊ะ!! เคยเห็นรถยกใช่ไม๊คะ ???

คิดว่าคงนึกออกนะ เป็นรถที่มีก้านๆอยู่ข้างหลังรูปตัวTเอาใว้สอดใต้ล้อทั้ง2ข้างเพื่อยกขึ้น คนขับอัธยาศัยดีมาก น่าจะอายุพอๆกับบุนหรือน้อยกว่านิดนึง เค้าจอดรถไว้ข้างหน้ารถบุน แล้วปล่อยก้านรูปตัวTลงบนพื้นช้าๆ(คือบุนไม่รู้จะเรียกว่าอะไรดีอะไอ้ก้านที่ว่านั่น) แล้วก็ออกมาจัดนู่นประกอบนี่นิดหน่อยแล้วก็ขึ้นไปถอยรถเข้ามาใกล้รถบุนเพื่อให้ก้านตัวTที่ว่าเข้าไปใต้รถ แล้วก็เอาแท่งเหล็กรูปตัว L มาประกอบเพื่อเป็นฐานไว้ยก แล้วก็เดินกลับเข้าไปในรถเพื่อกดสวิตช์ยกหน้ารถขึ้น แลวก็ต้องกลับมาเอาเชือก(มั๊ง)เส้นใหญ่ๆ มาพัน เรียบร้อย รวดเร็วมาก ง่ายมาก(ทำมายไม่เรียกมาตั้งแต่แรกฟร๊ะ)ไปได้แล้ว

บอกขอบคุณพี่ช่างก่อน

พอขึ้นไปนั่งบนรถข้างคนขับแล้วรู้สึกสบายขึ้นมาก แอร์เย็น แต่ก็อดห่วงรถที่ห้อยอยู่ข้างหลังไม่ได้ เลยต้องหันมาดูบ่อยๆ ถามคนขับว่าซอยแคบทำไงคะเนี่ย เลี้ยวได้เปล่า เค้าบอกว่า ไม่ต้องห่วงครับ เพราะมันจะตามรถเรามาเหมือนกันทุกอย่าง เออ...สังเกตุดูก็จริงแฮะ

เพียง5นาทีเท่านั้นท่านผู้ชม เราก็ได้มาถึงอู่เรียบร้อยโดยสวัสดิภาพ เรียกแท๊กซี่กลีบบ้านซะที เฮ้อ...เหนื่อย

อย่าถามนะว่าทำไมไม่โทรบอกที่บ้านให้มาช่วย ถามมามีโกรธ


3ทุ่มครึ่งค่ะ เหนื่อยสุดๆค่ะวันนี้ บอกไม่ถูกเลย
แต่อย่างน้อย
ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเหตุการณ์ที่เลวร้าย ก็มันก็ได้ให้ประสบการณ์ที่มีค่าเพิ่มขึ้นมาอีกตั้ง1อย่างเชียวนะ


2 comments:

  1. เข้ามาดู
    เอาไว้เผื่อเสียจะได้โทรถาม

    ReplyDelete
  2. มาเรยเพ่...

    แบตหมด หม้อน้ำแตก มู่เล่พัง ซ่อมเครื่องช่วงล่าง น้องผ่านมาหมดแร้ว

    โฮ่ โฮ่ โฮ่

    ReplyDelete